วันนี้ทาง ส-สวัสดีพลาสติก จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกสีถังขยะและถุงขยะ โดยหากใครมีคำถามหลังจากอ่านโพสต์นี้แล้วสามารถติดต่อมาสอบถามที่พวกเราได้เลย

“ขยะ” เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างขึ้น และมีอยู่ทั่วทั้งโลก มันคือวัสดุหรือวัตถุที่ถูกทิ้งแล้ว ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน หรือกระบวนการอุตสาหกรรม เมื่อวัสดุเหล่านี้หมดประโยชน์หรือไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ พวกมันจึงกลายเป็นขยะ เช่น เศษอาหาร ขวดพลาสติก กระดาษเก่า หรือวัสดุก่อสร้างเหลือใช้  ขยะเหล่านี้สามารถแบ่งได้หลายประเภท เช่น ขยะอินทรีย์ (ย่อยสลายได้) ขยะพลาสติก ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และขยะอันตราย

ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีถุงขยะ เพื่อคัดแยกขยะเหล่านี้ และเป็นภาชนะในการจัดเก็บและขนย้ายขยะต่างๆ และถุงขยะที่เราใช้ก็มี คุณภาพและขนาดที่แตกต่างกัน โดยเรามาทำความรู้จักกับถุงขยะเหล่านั้นให้มากขึ้นกัน

 

ความหนาของถุงขยะ

ความหนาของถุงขยะ คือความหนาของถุงพลาสติกที่ใช้ผลิตถุง ซึ่งถุงขยะที่วางขายทั่วไป แม้ว่าโดยส่วนมากผู้ผลิตไม่ได้มีการระบุเอาไว้ชัดเจน แต่ตามมาตราฐานแล้วมีขนาด 0.70 -0.90 มิลลิเมตร โดยปกติความหนาของถุง จะสัมพันธ์กับขนาดของถุง อย่างเช่น ถ้าเป็นถุงขยะที่ใช้ในครัวสำหรับทิ้งเศษอาหารหรือกล่องอาหาร ควรเป็นถุงที่มีความหนา 0.90 มิลลิเมตร เพื่อป้องกันการฉีดขาด แต่ถ้าถุงขยะที่ใช้สำหรับทิ้งของแห้ง น้ำหนักเบา เช่นถังขยะสำหรับเศษกระดาษในออฟฟิศ ก็อาจจะเลือกความหนาที่บางลงได้

 

ขนาดของถุงขยะ

ถุงขยะแบรนด์แจ๋วแหว๋ว เป็นถุงขยะที่เราผลิตขึ้นเองโดยมีทั้งหลากหลายขนาด และหลากหลายสี โดยขนาดมีความสำคัญกับถุงขยะเช่นกัน เนื่องจากถุงขยะมีหลายขนาดให้เลือกใช้ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อถุงขยะ ก็ควรตรวจสอบขนาดของถังขยะที่ใช้ก่อนว่ามีความกว้าง และความยาวเท่าไหร่ รวมถึงปริมาณความจุของถังด้วย โดยการเลือกขนาดของถุงขยะควรเลือกถุงให้มีความใหญ่กว่าถังโดยประมาณ เพื่อให้เหลือพื้นที่ในการมัดปากถุง ซึ่งขนาดของถุงขยะก็หลากหลายขนาดให้เลือกใช้ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น

• ขนาดเล็ก (ประมาณ 18 x 20 นิ้ว) ใช้สำหรับถังขยะขนาดเล็ก เช่นในห้องน้ำหรือในโต๊ะทำงาน
• ขนาดกลาง (ประมาณ 24 x 28 นิ้ว) ใช้ในถังขยะขนาดกลางตามบ้าน หรือสำนักงาน
• ขนาดใหญ่ (ประมาณ 30 x 40 นิ้ว) เหมาะสำหรับถังขยะขนาดใหญ่ในที่สาธารณะ หรือพื้นที่ที่มีขยะมาก
• ขนาดพิเศษ (มากกว่า 40 นิ้ว) สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่ต้องการบรรจุขยะในปริมาณมาก

นอกจากนี้ยังมีการระบุขนาดตามปริมาตร เช่น 30 ลิตร, 60 ลิตร, 120 ลิตร ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกใช้ถุงขยะที่ตรงกับความต้องการได้อย่างเหมาะสม

 

กลิ่นของถุงขยะ

กลิ่นของถุงขยะ มักมาจากวัสดุที่ใช้ผลิตถุง และจากขยะที่นำมาใส่ในถุง โดยถ้าเป็นถุงขยะสีดำ อาจมีกลิ่นที่ชวนปวดหัวไม่น้อย เนื่องจากเป็นกลิ่นที่มาจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล โดยกลิ่นของถุงขยะนั้น ใช้เป็นข้อสังเกตถึงคุณภาพของถุงขยะได้ในระดับหนึ่ง กล่าวคือกลิ่นของถุงขยะบอกได้ถึงสัดส่วนผสมของเม็ดพลาสติกว่ามี เม็ดพลาสติกใหม่ มากหรือน้อย เพราะเม็ดพลาสติกใหม่ไม่ได้มีกลื่นฉุน ดังนั้นถ้าหากมีส่วนผสมของเม็ดพลาสติกใหม่ในสัดส่วนที่มาก กลิ่นของถุงขยะก็จะน้อยกว่านั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีถุงขยะบางประเภทที่เพิ่มสารปรับกลิ่น เช่น กลิ่นมะนาวหรือกลิ่นลาเวนเดอร์ เพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากขยะภายในถุง โดยถุงขยะที่มีกลิ่นหอม มักจะได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับการใช้ในบ้าน สำนักงาน หรือห้องที่มีการทิ้งขยะบ่อย

 

สีของถุงขยะ

โดยปกติแล้วสีสำหรับถุงขยะที่ใช้กันเป็นประจำคือ “ถุงสีดำ หรือ ถุงดำ” โดยลูกค้า OEM ของเราก็ได้ทำถุงขยะสีดำขึ้นมาเยอะเหมือนกัน เนื่องจากถุงสีดำสามารถหาซื้อได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยบดบังขยะภายในถุงอีกด้วย อย่างไรก็ดี ถุงขยะ ยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม และตามวัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่น การใช้ถุงขยะต่างสีเพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้แยกขยะ ซึ่งสามารถแยกได้ตามสีดังนี้

• สีดำ : สำหรับขยะทั่วไปหรือขยะที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (ขยะทั่วไป)
• สีเขียว : สำหรับขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลายได้ เช่น เศษอาหาร เศษใบไม้
• สีเหลือง : สำหรับขยะรีไซเคิล เช่น กระดาษ พลาสติก ขวดแก้ว
• สีแดง : สำหรับขยะอันตราย เช่น ถ่านไฟยา กระป๋องยา ยาฆ่าแมลง และแบตเตอรี่มือถือ
• สีแดงพิมพ์ Biohazard : ใช้สำหรับขยะติดเชื้อในโรงพยาบาล
• สีฟ้า : สำหรับขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น เศษเหล็ก กระป๋องเครื่องดื่ม

 

ต่อมานอกจากถุงขยะแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่ต่างกันคือ “ถังขยะ” ที่เป็นที่สำหรับทิ้งขยะ โดยถังขยะก็มีแบ่งแยกย่อยไปอีก 4 ประเภท คือ ถังขยะเปียก ถังขยะรีไซเคิล ถังขยะทั่วไป และถังขยะอันตราย ซึ่งในประเทศไทยมีการรงณรงค์การแยกขยะมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล เพราะเรายังมีการทิ้งขยะโดยไม่สนใจว่าจะเป็นถังขยะแยกประเภทหรือไม่ เพียงแค่ทิ้งไปเฉยๆ

เพราะแบบนี้เราจึงควรให้ความสนใจในเรื่องของการแยกประเภทของถังขยะให้ถูกต้อง โดยประเภทของถังขยะที่ถูกนำมาใช้มีทั้งหมด 4 ประเภท คือ

 

• ถังขยะสีเขียว : สำหรับขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลายได้ เช่น เศษอาหาร เศษผัก ใบไม้ ผลไม้
• ถังขยะสีแดง : สำหรับขยะอันตราย หรือขยะที่มีสารพิษ เช่น หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ เข็มฉีดยา และสารเคมี
• ถังขยะสีน้ำเงิน : สำหรับขยะทั่วไป ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และไม่เป็นอันตราย เช่น เศษพลาสติกที่ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ เศษวัสดุใช้แล้ว เป็นต้น
• ถังขยะสีเหลือง : สำหรับขยะรีไซเคิล เช่น ขวดพลาสติก กระดาษ กระป๋อง และวัสดุที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้

การแยกสีของถังขยะและถุงขยะ ตามประเภทขยะ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การจัดการขยะเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งถังขยะและถุงขยะ ต่างก็มีการกำหนดสีที่ใช้แยกประเภทของขยะอย่างชัดเจน เช่น สีเขียวสำหรับขยะอินทรีย์ สีเหลืองสำหรับขยะรีไซเคิล และสีแดงสำหรับขยะอันตราย เมื่อเราใช้ทั้งถังและถุงขยะที่มีสีตรงกัน การแยกขยะก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น และลดโอกาสการทิ้งขยะผิดประเภท

การใช้ถุงขยะที่มีสีและขนาดที่เหมาะสมช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์  ป้องกันการรั่วซึม และช่วยให้กระบวนการจัดเก็บและขนย้ายสะดวกขึ้น การเลือกใช้ถุงขยะที่หนาและทนทานตามประเภทขยะยังช่วยป้องกันการฉีกขาดและการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้น 

เราขอเชิญให้ทุกคนมาร่วมมือกันใช้ทั้งถังขยะและถุงขยะให้ถูกต้องเพื่อสร้างนิสัยการจัดการขยะที่ดี ลดภาระสิ่งแวดล้อม และทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น! หากคุณสนใจสามารถเลือกดูผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของเราได้เลย!